คนทำธุรกิจ SME ควรรู้!! กรมสรรพากรปรับภาษี เพื่อสนุบสนุน SME ให้ใช้เครื่องมือดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งในปี 2565
คนทำธุรกิจ SME ควรรู้!! กรมสรรพากรปรับภาษี เพื่อสนุบสนุน SME ให้ใช้เครื่องมือดิจิทัลมากขึ้น ซึ่งในปี 2565 ทางกรมสรรพากรยังคงมาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ปรับเปลี่ยนธุรกิจสู่เศรษฐกิจดิจิทัลต่อไป โดยรายละเอียดมีดังต่อไปนี้
มาตรการดังกล่าวสำหรับการซื้อ จ้างทำ และใช้บริการ
- ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายไปเป็นค่าซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
- ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายไปเป็นค่าจ้างทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
- ยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายไปเป็นค่าใช้บริการโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ซึ่งขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
รายละเอียดของมาตรการ
- ต้องเป็นรายจ่ายเฉพาะในส่วนที่ไม่เกินหนึ่งแสนบาท สำหรับรอบระยะเวลาบัญชีที่เริ่มในหรือหลังวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2564 แต่ไม่เกินวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายในการดำเนินงานและบริหารจัดการธุรกิจเพิ่มมากขึ้น
- สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลซึ่งมีทุนที่ชำระแล้วในวันสุดท้ายของรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินห้าล้านบาทและมีรายได้จากการขายสินค้าและการให้บริการในรอบระยะเวลาบัญชีไม่เกินสามสิบล้านบาท
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือซอฟต์แวร์ (Software) หมายความว่า โปรแกรมหรือชุดคำสั่งที่ใช้ควบคุมการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์หรือฮาร์ดแวร์หรืออุปกรณ์ ที่ใช้ในการบริหารจัดการธุรกิจด้านต่างๆ เช่น โปรแกรมที่ใช้ในองค์กร โปรแกรมสมองกลฝังตัว โปรแกรมด้านการวิเคราะห์และประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ โปรแกรมที่ใช้ในการควบคุมและหรือเชื่อมโยงอุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมและหรือเชื่อมโยงอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง โปรแกรมที่ใช้ในงานสนับสนุนการผลิต รวมไปถึงโปรแกรมที่ให้บริการในรูปแบบโปรแกรมบริการ (Software as a Service : SaaS) ที่ผู้ใช้สามารถเรียกใช้บริการได้ตามความต้องการใช้งาน
โปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่สามารถใช้สิทธิ์ได้ ได้แก่
- ERP (โปรแกรมบริหารจัดการทรัพยากรองค์กร)
- CRM (โปรแกรมบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า)
- POS (โปรแกรมบริการ ณ จุดขาย)
- MRP (โปรแกรมบริหารจัดการและวางแผนการผลิต)
- Account (โปรแกรมบัญชี)
- Personnel (โปรแกรมบริหารงานบุคคล
- Logistics (โปรแกรมบริหารการขนส่ง)
- Inventory (โปรแกรมบริหารงานคลังสินค้า)
- Service Management System (โปรแกรมบริหารงานบริการ)
- AI Software (โปรแกรมที่ใช้ระบบปัญญาประดิษฐ์)
- Data Analytics (โปรแกรมวิเคราะห์ข้อมูล)
- IoT System (ชุดโปรแกรมอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง)
- Smart Farm (โปรแกรมบริหารจัดการฟาร์มอัจฉริยะ)
- e-Payment System (ชุดโปรแกรมชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์)
อย่างไรก็ตาม ถ้าธุรกิจ SME ต้องการใช้สิทธิ์มาตรการดังกล่าว สามารถตรวจสอบดูผู้ให้บริการที่ขึ้นทะเบียนไว้กับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ได้เพิ่มเติมที่เว็บไซต์ www.depa.or.th