สำหรับคนขายของออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล เมื่อมีรายได้ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำจะต้องทำการยื่นภาษีและเสียภาษี โดยเฉพาะกับรายได้ประเภทอื่น ๆ อย่างการขายของออนไลน์ หากคนโสดที่เป็นบุคคลธรรมดามีรายได้เกิน 60,000 บาท จะต้องทำการยื่นภาษี และกรณีสมรสมีรายได้รวมกันแล้วเกิน 120,000 บาท จะต้องยื่นภาษีด้วยเช่นกัน ดังนั้นไม่ว่าคุณจะขายของออนไลน์ผ่านช่องทางใดก็ตาม ทั้ง Facebook, Instagram, Twitter, Line, TikTok และแพลตฟอร์ม Marketplace ต่าง ๆ จัดเป็นเงินได้ประเภทที่ 8 ต้องนำรายได้จากตรงนี้ไปคำนวณในการเสียภาษีและยื่นภาษีด้วย
ในปัจจุบันการขายของออนไลน์กำลังเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ใหม่ ๆ อย่างในตอนนี้มีการไลฟ์ขายของผ่านทาง TikTok เพิ่มมากขึ้น คนขายของออนไลน์ควรรู้เรื่องภาษีไว้จะดีที่สุด มาดูกันว่า ภาษีที่คนขายของออนไลน์ต้องรู้ในบทความของเราวันนี้คืออะไรบ้าง
รายได้ที่เกิดจากการขายของออนไลน์ คือ?
ขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ดังต่อไปนี้
ขายสินค้าผ่านแพลตฟอร์ม Marketplace หรือ แพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายของบนโลกออนไลน์ ที่เป็นเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นกลางสำหรับการติดต่อซื้อขาย ที่รวบรวมสินค้าและร้านค้าไว้ด้วยกัน
คนขายของออนไลน์แต่ละประเภทต้องเสียภาษีใดบ้าง
ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา
สำหรับคนขายของออนไลน์ที่ขายสินค้าและบริการในรูปแบบของบุคคลธรรมดา ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม หากมีรายได้จากการขายของออนไลน์ ต้องยื่นแบบฯ บุคคลธรรมดา
ภาษีเงินได้นิติบุคคล
สำหรับการขายของออนไลน์ที่จดทะเบียนนิติบุคคล ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของบริษัท หรือห้างหุ้นส่วน ต้องยื่นแบบฯ นิติบุคคล
ภาษีมูลค่าเพิ่ม
ในส่วนของภาษีมูลค่าเพิ่ม ไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล ถ้ามียอดขายทั้งปีเกิน 1,800,000 บาทขึ้นไป ต้องยื่นคำขอจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.01) ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่รายรับเกิน 1,800,000 บาท ณ สำนักงานสรรพากรพื้นที่ที่สถานประกอบการตั้งอยู่ หรือยื่นผ่านอินเทอร์เน็ต และต้องยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภ.พ.30) ภายในวันที่ 15 ของเดือนถัดไปทุกเดือน ตามที่ได้กล่าวไปข้างต้น
คำที่เกี่ยวข้อง : ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา, ภาษีเงินได้นิติบุคคล, วางแผนภาษี