ตั้งแต่ 1 มกราคม 2565 ถึง 31 ธันวาคม 2567
เนื่องจากคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนผู้บริจาคให้แก่สถานศึกษา ผ่านระบบ e – Donation ทำให้ได้รับสิทธิหักลดหย่อนหรือหักรายจ่ายได้ 2 เท่า เพื่อให้ภาคเอกชนและภาคประชาชน มีส่วนร่วมในการสนับสนุนการจัดการศึกษาของประเทศอย่างต่อเนื่องรวมถึงอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริจาคในการลดภาระการจัดเก็บเอกสาร
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า “คณะรัฐมนตรีอนุมัติ หลักการ ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …. (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการศึกษา) โดยมีหลักการสรุปได้ดังนี้ 1. ให้ยกเลิกพระราชกฤษฏีกาฯ (ฉบับที่ 420) พ.ศ.2547 และ พระราชกฤษฏีกาฯ (ฉบับที่ 655) พ.ศ.2561 ตั้งแต่วันถัดจากวันที่พระราชกฤษฏีกาประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. ให้ผู้บริจาคให้แก่สถานศึกษาดังต่อไปนี้ได้รับสิทธิหักลดหย่อนหรือหักรายจ่ายได้ 2 เท่า สำหรับการบริจาคผ่านระบบ e-Donation ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567
(1) สถานศึกษาของรัฐ
(2) โรงเรียนเอกชน แต่ไม่รวมถึงโรงเรียนนอกระบบ
(3) สถาบันอุดมศึกษาเอกชน
(4) สถานศึกษาที่จัดตั้งขึ้นในประเทศไทยตามสนธิสัญญาหรือความตกลงระหว่างรัฐบาลไทยกับทบวงการชำนัญพิเศษแห่งสหประชาชาติ
(5) สถาบันอุดมศึกษาที่มีศักยภาพสูงจากต่างประเทศ
อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวเพิ่มเติมว่า “มาตรการดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้สถานศึกษาสามารถพัฒนาศักยภาพของนักเรียน นิสิต และนักศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เป็นการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ อีกทั้งยังช่วยให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น อันเป็นการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคมให้แก่ประชาชน”
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สานักงานสรรพากรทุกแห่งทั่วประเทศ หรือศูนย์สารนิเทศสรรพากร (RD Intelligence Center) โทร. ๑๑๖๑
e-Donation คือระบบที่กรมสรรพากรพัฒนาขึ้นมา สำหรับรับบริจาคของสถานศึกษา ศาสนสถาน โรงพยาบาล องค์กรสาธารณสุขอื่น ๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริจาคให้สามารถใช้สิทธิลดหย่อนภาษีได้โดยไม่ต้องนำหลักฐานการบริจาคมาแสดงต่อกรมสรรพากร ระบบนี้จะช่วยให้ผู้บริจาคได้รับเงินคืนภาษีได้รวดเร็วขึ้น