ใครที่กำลังจะเดินเข้าสู่เส้นทางการกู้ยืม การเป็นหนี้ ควรรู้เรื่องดอกเบี้ยไว้ให้ดีที่สุด
ดอกเบี้ยมีความสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจ เนื่องจากเป็นแรงจูงใจให้ผู้มีเงินออมนำเงินไปลงทุน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตได้ นอกจากนี้ ดอกเบี้ยยังเป็นเครื่องมือที่สถาบันการเงินใช้ควบคุมปริมาณเงินในระบบเศรษฐกิจอีกด้วย ใครที่กำลังจะเดินเข้าสู่เส้นทางการกู้ยืม การเป็นหนี้ ควรรู้เรื่องดอกเบี้ยไว้ให้ดีที่สุด
โดยดอกเบี้ยเงินกู้ คือ ดอกเบี้ยที่ผู้กู้ต้องชำระให้แก่ผู้ให้กู้ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น ประเภทของสินเชื่อ ระยะเวลาการกู้ยืม ความเสี่ยงของผู้กู้ เป็นต้น
การคิดดอกเบี้ยเงินกู้ยืมสามารถทำได้ 2 วิธี คือ
1.ดอกเบี้ยแบบคงที่ คือ ดอกเบี้ยที่คำนวณจากเงินต้นทั้งก้อนตั้งแต่วันที่ทำสัญญา แล้วนำไปหารกับจำนวนงวดที่ต้องผ่อน ทำให้ต้องจ่ายดอกเบี้ยเท่าเดิมในทุก ๆ งวด
วิธีคิดดอกเบี้ยแบบคงที่
ดอกเบี้ยแบบคงที่มีอัตราดอกเบี้ยในแต่ละงวดเท่ากัน สามารถคำนวณหาจำนวนดอกเบี้ยที่ต้องชำระทั้งหมดได้ด้วยสูตรดังต่อไปนี้
: ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายทั้งหมด = เงินต้น x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนปี
เช่น เงินต้นเป็น 100,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 10% ระยะเวลาในการผ่อน 2 ปี จะได้จำนวนดอกเบี้ยที่ต้องชำระเท่ากับ 20,000 บาท (100,000 x 10% x 2 ปี)
สรุป เงินต้น 100,000 บาท ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายชำระทั้งหมด 20,000 บาท ระยะเวลาผ่อน 2 ปี
ดังนั้น จำนวนเงินที่ต้องผ่อนชำระต่อเดือน = ( เงินต้น + ดอกเบี้ยทั้งหมด )/24 เดือน
= ( 100,000 + 20,000 ) / 24 เดือน
= 120,000 บาท / 24 เดือน
= 5,000 บาท / เดือน
2. ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก คือ ดอกเบี้ยที่คำนวณจากเงินต้นที่เหลือในแต่ละงวด เมื่อมีการผ่อนชำระบางส่วนไปแล้ว ดอกเบี้ยที่ต้องชำระในงวดถัดไปก็จะน้อยลง ขึ้นอยู่กับจำนวนเงินต้นที่เหลือ
โดยส่วนใหญ่ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกมักใช้กับสินเชื่อบ้านและสินเชื่อส่วนบุคคล แต่เมื่อปี 2566 เป็นต้นไป ผู้ที่เช่าซื้อรถยนต์-รถจักรยานยนต์ สามารถเลือกใช้ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอกได้ จากเดิมที่สามารถใช้ได้เพียงการคิดดอกเบี้ยแบบคงที่เท่านั้น
วิธีคิดดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก
นำเงินต้นคงเหลือในงวดดังกล่าวมาคำนวณด้วยสูตรดังต่อไปนี้
ดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้น = ( เงินต้นคงเหลือ x อัตราดอกเบี้ย x จำนวนวันในงวด)/จำนวนวันต่อปี
เช่น เงินต้นคงเหลือ 10,000 บาท อัตราดอกเบี้ย 10% ต่อปี จะมีดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายในงวดนั้น
= (10,000 x 10% x 30 วัน ) / 365 วัน
= 82 บาท
สรุปควรใช้วิธีไหนในการคำนวณดอกเบี้ย
การเลือกใช้วิธีใดในการคำนวณ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการจัดหาเงินของผู้กู้ หากผู้กู้สามารถจัดหาเงินก้อนมาชำระหนี้ในแต่ละงวดได้ในจำนวนมากๆ การใช้วิธีคำนวณดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก จะมีความเหมาะสมมากว่า เนื่องจากจำนวนเงินต้นที่ลดลง ส่งผลให้ดอกเบี้ยที่ต้องชำระในแต่ละงวดลดลงตามไปด้วย
แต่หากผู้กู้จะต้องทำการผ่อนชำระไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีเงินมาปิดหนี้ทั้งหมด เหมาะสมที่จะใช้วิธีการคำนวณดอกเบี้ยแบบคงที่มากกว่า เนื่องจากดอกเบี้ยในแต่ละงวดมีมูลค่าเท่ากันทุกงวด
ข้อควรระวังในการกู้ยืมเงิน
ก่อนตัดสินใจกู้ยืมเงิน ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ ดังนี้
- ความจำเป็นในการกู้ยืม
- ความสามารถในการชำระหนี้
- อัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการกู้ยืม
- เปรียบเทียบอัตราดอกเบี้ยและเงื่อนไขการกู้ยืมจากสถาบันการเงินต่างๆ ก่อนตัดสินใจกู้ยืม
- ชำระหนี้ได้ตรงตามกำหนด เพื่อหลีกเลี่ยงเบี้ยปรับและดอกเบี้ยทบต้นที่อาจทำให้หนี้เพิ่มสูงขึ้น
หากคุณเป็นผู้ประกอบการหรือนักบัญชีที่ต้องการบริหารจัดการภาษีให้ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ไม่ควรพลาดงานสัมมนา "เข้าใจกระบวนการตรวจสอบภาษี : เคล็ดลับที่ผู้ประกอบการและนักบัญชีต้องรู้" ที่จะมาเปิดเผยเคล็ดลับสำคัญในการรับมือกับการตรวจสอบภาษี และวิธีการออกใบกำกับภาษีให้ถูกต้อง ที่ช่วยให้ธุรกิจของคุณปลอดภัยจากปัญหาต่าง ๆ ทั้งในเรื่องของกฎหมาย และลดภาระทางภาษีได้
งานสัมมนานี้ได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญด้านภาษีที่มีประสบการณ์สูง มาถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ตรงให้กับผู้เข้าร่วมสัมมนา ติดต่อสอบถามหรือติดตามวันเปิดสำรองที่นั่งในรอบโปรโมชันพิเศษ ซื้อก่อนก็มีสิทธิ์ก่อน
เปิดจองที่นั่งตั้งแต่วันที่ 9 กันยายนเป็นต้นไป
- รอบ Early bird ราคาเริ่มต้น 1,3XX บาท/ท่าน
- รอบปกติ ราคาเริ่มต้น 1,5XX บาท/ท่าน
- ซื้อ 3 ท่านขึ้นไปได้ราคาพิเศษเหลือ 1,2XX บาท/ท่าน
ติดต่อสอบถามหรือจองที่นั่งได้ที่
Email : arac@ar.co.th
โทร 02-439-4600 (ARAC)
หรือกดสั่งซื้อที่นั่งได้ด้วยตัวเองบน Shop หน้าเว็บของเรา