ธุรกิจให้เช่าบางประเภท ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% แต่บางประเภท ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
การให้เช่าคืออะไร?
การให้เช่า หมายถึง การที่ ผู้ให้เช่า ตกลงให้ ผู้เช่า ได้ใช้หรือได้รับประโยชน์จากทรัพย์สินของผู้ให้เช่า เป็นระยะเวลาที่กำหนดไว้ โดยผู้เช่าจะต้องจ่าย ค่าเช่า ให้แก่ผู้ให้เช่าเป็นการตอบแทน ซึ่งระหว่างที่เช่า ตัวผู้เช่าจะได้ครอบครองและดูแลรักษาทรัพย์สินนั้น
การให้เช่า กับการให้บริการแตกต่างกันอย่างไร
การให้บริการ คือการกระทำที่มุ่งตอบสนองความต้องการของบุคคลอื่น เพื่อสร้างความพึงพอใจและประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้รับบริการ ซึ่งไม่ใช่เป็นการขายสินค้า เช่น โรงแรมที่คิดค่าเข้าพักเป็นรายวัน เป็นต้น ดังนั้นเข้าใจความแตกต่างของการให้เช่ากับการให้บริการง่าย ๆ ก็คือ การให้บริการ เจ้าของหรือผู้ให้เช่าไม่ได้ส่งมอบการครอบครองให้กับลูกค้าด้วย
ตัวอย่างการให้เช่า และการให้บริการ
เจ้าของบ้านให้เช่าบ้านเป็นระยะเวลา 1 ปี ได้รับค่าเช่าเดือนละ 10,000 บาท
บริษัทให้บริการซักรีด ได้รับค่าบริการจากลูกค้า 1,000 บาท
ธุรกิจให้เช่าต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่มอย่างไร
ธุรกิจให้เช่าบางประเภท ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) 7% แต่บางประเภท ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม ขึ้นอยู่กับประเภทของทรัพย์สินที่ให้เช่า
กรณีที่ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม
- การให้บริการที่พักรายวัน: เช่น โรงแรม รีสอร์ท โฮมสเตย์ เกสต์เฮาส์
- การให้เช่าพื้นที่: เช่น ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า ตลาด
- การให้เช่าอุปกรณ์: เช่น เครื่องจักร เครื่องมือ
- การให้เช่ายานพาหนะ: เช่น รถยนต์ รถจักรยานยนต์
กรณีที่ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม
- การให้เช่าที่พักอาศัยรายเดือน: เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม
- การให้เช่าที่ดิน: เช่น ที่ดินเปล่า ที่ดินสำหรับเกษตรกรรม
- การให้เช่าทรัพย์สินอื่น ๆ : เช่น สินค้าโอทอป
ตัวอย่าง
- ให้เช่าห้องพักรายเดือน เป็นการส่งมอบการครอบครองและดูแลทรัพย์สินนั้นให้กับลูกค้า (โดยส่วนใหญ่จะมีค่าประกันความเสียหาย หากมีสิ่งของเสียหายจะเรียกเก็บจากค่าประกันนี้) ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม = ค่าเช่าห้องพักรายเดือน 9,500 บาท / เดือน ไม่มี VAT
- ให้บริการที่พักรีสอร์ทรายวัน เป็นการให้บริการไม่ได้ส่งมอบการครอบครองและดูแลทรัพย์สินให้ลูกค้า จึงต้องจดทะเบียนภาษีมุลค่าเพิ่ม = ค่าเข้าพัก 1 คืน 1,000 บาท ต้องบวก VAT 7% ไปกับค่าบริการด้วย