ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวว่า “การสัมมนาในวันนี้ เป็นมาตรการขับเคลื่อนบัญชีชุดเดียว เพื่อการพัฒนาประเทศ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างกรมสรรพากร สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย และสำนักงานบัญชี เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการจัดทำบัญชีชุดเดียวที่สอดคล้องกับ สภาพข้อเท็จจริงของการประกอบการ และรองรับการดำเนินการของสถาบันการเงินที่ใช้บัญชีและงบการเงิน ในการนำส่งกรมสรรพากรเป็นหลักฐานในการทำธุรกรรมทางการเงิน และการขออนุมัติสินเชื่อ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 เป็นต้นไป”
อธิบดีกรมสรรพากร เน้นถึงความสำคัญของการจัดทำบัญชีชุดเดียว ซึ่งถือเป็นสิ่งที่รัฐบาล กรมสรรพากร และองค์กรความร่วมมือต่าง ๆ มุ่งหวังให้เกิดขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถดำเนินธุรกิจ อย่างมั่นคงไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงธุรกรรมทางการเงิน การรวมกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจของประเทศต่าง ๆ ข้อกำหนดขององค์กรระหว่างประเทศเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อต้องการข้อมูลทางการเงินที่มีความโปร่งใสมากขึ้น ซึ่งหากผู้ประกอบการไทยไม่ปรับตัวตามกระแสเศรษฐกิจโลกดังกล่าว ย่อมส่งผลกระทบต่อธุรกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
สำหรับมาตรการสนับสนุนการจัดทำบัญชีชุดเดียวที่สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงของการประกอบการ ผู้ที่ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการดำเนินการ คือ ผู้ประกอบการ ซึ่งจะทำให้ได้รับข้อมูลที่สะท้อนผลการประกอบการที่แท้จริง สามารถตัดสินใจดำเนินธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความโปร่งใส บริหารจัดการความเสี่ยงของธุรกิจได้อย่างเหมาะสม สามารถลดต้นทุนที่ไม่จำเป็นในการประกอบธุรกิจได้ ส่งผลให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือ และสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการทั้งภายในและภายนอกประเทศได้
ดังนั้นผู้ประกอบการที่ยังดำเนินการอย่างถูกต้อง ควรปฏิบัติให้ถูกต้อง โดยการปรับปรุงรายการทางบัญชีให้สอดคล้องกับสภาพข้อเท็จจริงของการประกอบการ เพื่อรองรับการดำเนินการของสถาบันการเงิน ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2562 เป็นต้นไป
ข้อมูลจาก : กรมสรรพากร
วันที่ 2018-11-16