นั่นจึงทำให้ธุรกิจหลาย ๆ ธุรกิจเริ่มตื่นตัว และตรวจสอบความถูกต้องของบัญชีและรายการภาษีต่าง ๆ เพราะในตอนนี้กรมสรรพากรได้นำระบบ Big Data & Data Analytics เข้ามาช่วยตรวจสอบธุรกิจกลุ่มเสี่ยงที่อาจหลีกเลี่ยงภาษี หลังจากการวิเคราะห์ได้พบกับกลุ่มเสี่ยงและพฤติกรรมเข้าข่ายสร้างรายได้และรายการเท็จจำนวนมาก โดยสรรพากรได้เตือนผู้ประกอบการนิติบุคคลยื่นแบบแสดงรายการภาษีให้ถูกต้อง
โดยตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นไป ทางกรมสรรพากรจะทำการตรวจเข้มการทำบัญชีของผู้ประกอบการ โดยใช้ระบบ Big Data & Data Analytics เพื่อคัดกรองว่า ผู้ประกอบการใดบ้างจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหลีกเลี่ยงภาษี และกลุ่มใดจัดอยู่ในกลุ่มดี ซึ่งหากตรวจพบว่าผู้ประกอบการรายใดหลีกเลี่ยงภาษี จะต้องชำระภาษีให้ถูกต้องและต้องเสียเบี้ยปรับตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตามข้อมูลที่ทำให้มีความเสี่ยงหลีกเลี่ยงภาษี อาจเกิดจากข้อมูลจากทรัพย์สิน รายได้ ทุน หนี้สิน หรือค่าใช้จ่าย เนื่องจากผู้ประกอบการมักใช้ช่องทางเหล่านี้ในการหลีกเลี่ยงภาษี โดยเฉพาะเงินสดเป็นประเภทสินทรัพย์ที่ระบบบัญชีไม่ต้องผ่านธุรกรรมการเงินจากสถาบันการเงิน เป็นวิธีการหลีกเลี่ยงภาษีที่ผู้ประกอบการหลายรายใช้ เพื่อไม่ให้มีทรัพย์สินมากผิดปกติ
อีกหนึ่งกรณีที่ธุรกิจส่วนใหญ่ใช้เพื่อหลีกเลี่ยงภาษีก็คือ กรณีของรายได้ ซึ่งมีการบันทึกรายได้ไม่ถูกต้อง หรือไม่ครบถ้วน ซึ่งมีอยู่หลายวิธีที่ทำให้ธุรกิจบันทึกรายได้ไม่ถูกต้อง เช่น บันทึกค่าใช้จ่ายให้สูงกว่ารายได้ หรือแม้แต่การสร้างรายได้และรายจ่ายที่เป็นเท็จ เป็นต้น
ดังนั้นระบบ Big Data & Data Analytics ทำให้กรมสรรพากรสามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ธุรกิจได้สะดวกยิ่งขึ้น ธุรกิจใดที่กังวลว่าจะอยู่ในกลุ่มเสี่ยง หรือรู้ตัวว่าทำบัญชีและยื่นแบบแสดงรายการทางภาษีไม่ถูกต้อง ให้รีบทำการตรวจสอบพร้อมปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องก่อนที่กรมสรรพากรจะพบเจอด้วยตนเอง
ในช่วงพฤษภาคมนี้ กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาของภาษีครึ่งปี สำหรับนิติบุคคล ทางอธิบดีกรมสรรพากร นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศจึงอยากให้ผู้ประกอบการเข้ามาเช็คว่าธุรกิจของตัวเองอยู่ในกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ จะได้ทำการแก้ไขให้ถูกต้องก่อนยื่นแบบแสดงรายการฯ
วันที่ 2019-05-14