มาตรการลดภาษีชอปช่วยชาติในครั้งนี้เป็นมาตรการภาษี เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงปลายปี 2560 และเพื่อเป็นการกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งจะยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับเงินได้เท่าที่ได้จ่ายเป็นค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการให้แก่ผู้ประกอบการที่ได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งต้องมีมูลค่าไม่เกิน 15,000 บาท ในระหว่างวันที่ 11 พ.ย. – 3 ธ.ค. 2560 โดยมีเงื่อนไขในการใช้สิทธิมาตรการลดหย่อนภาษีชอปช่วยชาติ ดังต่อไปนี้
- สินค้าและบริการที่ซื้อต้องอยู่ในช่วงวันที่ 11 พ.ย. – 3 ธ.ค. 2560 เท่านั้น
- ต้องเป็นสินค้าหรือบริการที่ผู้ประกอบการและร้านค้าได้จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
- สินค้าและบริการที่เสียภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
- ใบกำกับภาษีแบบเต็มรูปแบบ (ใบกำกับภาษีอย่างย่อหรือใบเสร็จนำมาใช้ไม่ได้)
- เป็นสินค้าและบริการ เพื่อใช้ภายในประเทศเท่านั้น
ทั้งนี้ทางรัฐบาลก็ได้มีข้อเว้นสำหรับสินค้าบางประเภทไว้ด้วย ซึ่งหลาย ๆ คนอาจเข้าใจผิดว่า สินค้าและบริการทุกประเภทสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ ดังนั้นเพื่อให้หลาย ๆ คนชอปได้แบบสบายใจและไม่เสียเงินโดยเปล่าประโยชน์ เราจึงยกตัวอย่างสินค้าที่สามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้ให้ทราบกัน ดังนี้ สินค้าที่ซื้อจากร้านสะดวกซื้อและห้างสรรพสินค้า, ค่าอาหาร หรือเครื่องดื่มในโรงแรมที่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม (ยกเว้นสุราและยาสูบ), ค่าเสริมความงามหรือค่าศัลยกรรม, อุปกรณ์ หรืออะไหล่ตกแต่งรถยนต์, สปาหรือนวดแผนไทย, ตั๋วหนัง, ค่าซ่อมรถ, ค่าตั๋วเครื่องบินภายในประเทศ (ไม่รวมแพ็กเกจทัวร์) เป็นต้น อย่าลืมว่าการซื้อสินค้าและบริการมีเงื่อนไขที่จำกัด ก่อนซื้อผู้บริโภคควรหาข้อมูลหรือสอบถามจากพนักงานก่อนทำการซื้อ เพื่อให้แน่ใจว่าสินค้าและบริการที่ได้ทำการซื้อมานั้นจะสามารถนำมาลดหย่อนภาษีได้
อย่างไรก็ตามกระทรวงการคลัง กล่าวว่า ถึงแม้มาตรการดังกล่าวจะทำให้มีภาษีสูญเสียไปประมาณ 2 พันล้านบาท แต่ก็จะทำให้สามารถเพิ่มยอดสินค้าหรือการให้บริการแก่ผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่มได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม และคาดว่าเศรษฐกิจในปีนี้จะขยายตัวเพิ่มขึ้นราว ๆ 0.05%
อ้างอิง : Thairath, Prachachat, Posttoday
เผยแพร่เมื่อ 16 พ.ย. 2018