เชื่อว่าทุกคนคงคุ้นเคยกับภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือที่เรามักจะเห็นในใบเสร็จเวลาเราไปซื้อสินค้าหรือบริการ จะมีคำว่า VAT คิดรวมกับเงินที่เราต้องจ่ายในการซื้อสินค้าและบริการด้วย ซึ่งคุณรู้กันไหมว่าภาษีมูลค่าเพิ่มที่เราต้องจ่ายมาจากอะไร
ภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ Value Added Tax (VAT) เป็นภาษีทางอ้อมที่รัฐบาลจะเก็บภาษีจากการขายสินค้าและบริการผู้ประกอบการที่ขายสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภค คือมูลค่าส่วนที่เพิ่มขึ้นจากขั้นตอนในการผลิตสินค้าหรือบริการ ซึ่งทางผู้ประกอบการจะมีการคิดภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ไปในสินค้าและบริการของตน ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ผลิตในประเทศหรือสินค้าที่ผลิตจากต่างประเทศ โดยภาษีที่ต้องเสียนั้นได้แก่ ภาษีซื้อและภาษีขาย
ภาษีขาย คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มได้เรียกเก็บจากผู้ซื้อสินค้าและบริการ
ภาษีซื้อ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มจ่ายให้กับผู้ขายสินค้าหรือบริการที่ต้องจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นเดียวกัน เพื่อซื้อสินค้ามาประกอบกิจการของตนเอง รวมถึงสินค้าประเภททุนด้วย
หากยอดภาษีขายมากกว่าภาษีซื้อ คือ ภาษีมูลค่าเพิ่มที่ต้องชำระ แต่ถ้าหากภาษีซื้อมากกว่าภาษีขาย คือ ภาษีที่ผู้ประการมีสิทธิ์ขอคืนหรือเป็นการขอเครดิตภาษีนั่นเอง ซึ่งในประเทศไทยมีการกำหนดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม 7 % ภาษีมูลค่าเพิ่มที่รัฐบาลเรียกเก็บได้จะแบ่งออกไปใช้ในส่วนต่าง ๆ หนึ่งในนั้นได้มีการแบ่งองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น เพื่อนำไปพัฒนาชุมชนหรือท้องถิ่น และส่วนที่เหลือจะนำไปไว้ส่วนกลาง โดยมีการนำภาษีมูลค่าเพิ่มมาใช้เพื่อขจัดปัญหาภาษีซ้ำซ้อนต่าง ๆ อีกทั้งยังเป็นการอำนวยต่อการลงทุนและการส่งออกไปยังต่างประเทศ
เผยแพร่เมื่อ 13 ก.พ. 2018