สำหรับวันหยุดยาวในช่วงครึ่งปีหลังนี้ ใครยังไม่รู้ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนดี วันนี้ต้องมาดูก่อนตัดสินใจเพราะการท่องเที่ยวของคุณต่อจากนี้ไม่ได้มีเพียงความสนุกและการพักผ่อนเท่านั้น แต่การท่องเที่ยวในครั้งนี้จะทำให้คุณสามารถลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย ซึ่งหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขต้องเป็นไปตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากร ดังนั้นทำอย่างไรถึงจะสามารถลดหย่อนภาษีได้มาดูกัน
ท่องเที่ยวอย่างไร ลดหย่อนภาษีได้
สำหรับคนที่สามารถนำค่าใช้จ่ายไปลดหย่อนภาษีได้นั้น ต้องเป็นผู้ที่มีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา และต้องเป็นการท่องเที่ยวในจังหวัดของประเทศไทยที่เป็นเมืองรองเท่านั้น ซึ่งเมืองรองเหล่านั้นมีอยู่ 55 จังหวัดด้วยกัน ได้แก่
ภาคเหนือ 16 จังหวัด
เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ พะเยา แพร่ น่าน พิจิตร ตาก อุทัยธานี พิษณุโลก เพชรบูรณ์ นครสวรรค์ กำแพงเพชร สุโขทัย
ภาคอีสาน 18 จังหวัด
เลย อุดรธานี อุบลราชธานี หนองคาย มุกดาหาร ศรีสะเกษ นครพนม บึงกาฬ ยโสธร หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ กาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด สุรินทร์ สกลนคร บุรีรัมย์ ชัยภูมิ มหาสารคาม
ภาคกลาง 7 จังหวัด
ลพบุรี สิงห์บุรี สุพรรณบุรี ชัยนาท อ่างทอง สมุทรสงคราม ราชบุรี
ภาคตะวันออก 5 จังหวัด
สระแก้ว ตราด จันทบุรี ปราจีนบุรี นครนายก
ภาคใต้ 9 จังหวัด
ชุมพร สตูล ตรัง พัทลุง นครศรีธรรมราช ระนอง ปัตตานี ยะลา ปัตตานี
เงื่อนไขการลดหย่อนภาษี
1.ค่าใช้จ่ายที่นำมาหักเป็นค่าลดหย่อนได้ มีดังต่อไปนี้
- ค่าที่พัก โรงแรมหรือโฮมสเตย์ไทย ที่ได้รับรองมาตรฐานจากกรมการท่องเที่ยว ในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือเขตพื้นที่ท่องเที่ยวที่อธิบดีประกาศ
- ค่าซื้อแพคเกจทัวร์ท่องเที่ยว สำหรับแพคเกจท่องเที่ยวในจังหวัดท่องเที่ยวรอง หรือแพคเกจการท่องเที่ยวในจังหวัดรอง ร่วมกับท้องที่ในเขตจังหวัดอื่น ซึ่งต้องได้รับการรับรองจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
2.หลักฐานในการลดหย่อนภาษี
- ใบกำกับภาษี
- ใบเสร็จรับเงินระบุชื่อผู้ให้บริการอย่างชัดเจน
เผยแแพร่เมื่อ 16 พ.ย. 2018