ผู้มีหน้าที่เสียภาษีไม่ว่าจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคล อย่าลืมยื่นแบบฯ ภาษีที่ต้องทำการยื่นในเดือนพฤษภาคม ไม่ว่าจะเป็นภาษีเงินได้ หัก ณ ที่จ่าย ภ.ง.ด. 1, 2, 3, 53,54  และภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ. 30, 36 ซึ่งได้มีการขยายเวลาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับบุคคลและบริษัทต่าง ๆ สามารถยืนเอกสารได้ทันเวลาในสถานการณ์การแพร่ระบาดขอเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ขยายเวลาในการยื่นผ่านออนไลน์ออกไปจนถึงวันที่ 30 พฤษภาคม 2564 มาดูว่าต้องยื่นแบบและเอกสารอะไรบ้างมาดูกัน

• ภ.ง.ด.1 เป็นแบบแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับกรณีผู้จ่ายเงินได้ที่เป็นบุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคมหรือคณะบุคคล ที่มีการจ่ายเงินได้อย่างเงินเดือน ค่าจ้าง เป็นต้น ให้แก่ผู้เสียภาษีเงินได้ที่เป็นบุคคลธรรมดา เรียกง่าย ๆ องค์กรที่มีการจ่ายเงินให้กับลูกจ้าง โดยผู้จ่ายเงินได้ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่หักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.1 ภายใน 7 วันนับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงิน แต่ในช่วงโควิดนี้มีการเลื่อนออกไป
• ภ.ง.ด. 2 คือแบบยื่นแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับผู้จ่ายเงินได้ที่เป็นบุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคมหรือคณะบุคคล ที่จ่ายเงินให้เป็น ค่าลิขสิทธิ์ ดอกเบี้ยเงินฝาก หรือเงินปันผล  โดยผู้จ่ายเงินเป็นผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.2
• ภ.ง.ด.3 คือแบบยื่นแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับผู้จ่ายเงินได้ที่เป็นบุคคล ห้างหุ้นส่วน บริษัท สมาคมหรือคณะบุคคล ที่จ่ายเงินได้อย่างค่าเช่าทรัพย์สิน ค่าโฆษณา ค่าบริการ ค่าจ้างทำของ ค่ารับเหมา และค่าขนส่ง เป็นต้น ซึ่งผู้รับเงินเป็นบุคคลธรรมดา โดยผู้จ่ายเงินได้ซึ่งเป็นผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องยื่นแบบ ภ.ง.ด.3
• ภ.ง.ด. 53 แบบยื่นแสดงรายการภาษีเงินได้หัก ณ ที่จ่าย สำหรับกรณีผู้จ่ายได้ที่เป็นรัฐบาล องค์กรรัฐบาล บริษัท ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล หรือนิติบุคคลอื่น ที่จ่ายเงินได้ประเภท ค่าเช่าทรัพย์สิน ค่านายหน้า ค่าบริการค่าจ้างทำของ ค่าโฆษณา ค่าขนส่ง ซึ่งผู้รับเงินเป็นนิติบุคคล โดยผู้จ่ายเงินได้ซึ่งเป็นผู้หักภาษี ณ ที่จ่าย ต้องยื่นแบบภ.ง.ด.53 ภายใน 7 วันนับแต่วันสิ้นเดือนของเดือนที่จ่ายเงิน
• ภ.ง.ด. 54 คือแบบยื่นรายการภาษีเงินได้นิติบุคคล และการจำหน่ายเงินกำไรให้กับนิติบุคคลที่จัดตั้งบริษัทขึ้นตามกฎหมายของต่างประเทศและไม่ได้ประกอบกิจการในประเทศไทย หรือนิติบุคคลที่ตั้งตามกฎหมายของต่างประเทศและประกอบการในประเทศไทย
• ภ.พ. 30 คือเอกสารสรุปภาษีซื้อภาษีขาย ที่เจ้าของธุรกิจต้องเอาไว้ใช้ยื่นแสดงภาษีมูลค่าเพิ่มแก่กรมสรรพากรทุกเดือน เฉพาะธุรกิจที่มีรายได้ 1.8 ล้านบาทต่อปี และได้ทำการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว
• ภ.พ. 36 คือแบบที่นำส่งภาษีมูลค่าเพิ่ม สำหรับผู้จ่ายค่าสินค้าหรือบริการให้กับผู้ประกอบการที่อยู่ต่างประเทศได้เข้ามาประกอบกิจการขายสินค้าหรือให้บริการในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและไม่ได้จดภาษีมูลค่าเพิ่ม รวมถึงผู้ประกอบการที่ได้ให้บริการในต่างประเทศ จะเป็นผู้ยื่นภาษีมูลค่าเพิ่มในอัตรา 7% แทน เนื่องจากผู้ขายหรือผู้ให้บริการไม่ได้เข้ามาประกอบกิจการในประเทศไทย

          อย่าลืมยื่นเอกสารเหล่านี้ภายในวันที่ 30 พฤษภาคม 2564 เพราะถ้าหากลืมยื่นเอกสาร คุณอาจพบกับบทลงโทษทางกฎหมาย ซึ่งไม่คุ้มต่อการดำเนินการและเสียเวลามาก ๆ แน่นอน